วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

วิธีตั้งค่า CCleaner เพื่อให้มันทำการลบล้างได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

CCleaner ให้ไปดาวน์โหลดมาใช้ได้จาก http://www.ccleaner.com/download/builds/downloading-slim

หลังจากที่ติดตั้ง CCleaner ในเครื่องเรียบร้อยแล้ว ให้เปิด CCleaner ขึ้นมา
คลิก Options/Advanced
ในหน้าต่าง Advanced , ให้ติ๊กตามนี้เท่านั้น
- Show prompt to backup registry issues.
- Show detailed log of Internet Explorer temporary file.

ต่อไป ให้คลิกที่ Settings
ตรวจดูให้แน่ใจว่า Automatically check for updates to cleaner ถูกติ๊กไว้
ถ้าหากคุณอยากจะใช้วิธี default (เร็วที่สุด) setting ให้ติ๊กที่ Normal file deletion

ถ้าคุณอยากจะใช้วิธีลบล้างที่มั่นคงปลอดภัย ก็ให้เลือก Secure file deletion แล้วใน box ที่อยู่ด้านล่าง ให้เลือก Simple ( 1 pass ) , DOD (3 passes) หรือ NSA (7passes)


มาถึงตอนนี้ CCleaner ก็พร้อมที่จะใช้งาน ให้คลิกที่ไอคอน the Cleaner (รูปแปรง) หาดูได้ที่มุมบนด้านซ้าย แล้วหน้าต่างใหม่จะถูกเปิดขึ้นมา

ภายใต้ cleaner settings ให้คลิกที่ Windows tab แล้วตรวจดูให้แน่ใจว่า ตัวเลือกเหล่านี้ถูกติ๊กไว้
- Internet Explorer รวมทั้ง sub entries ทั้งหมดของมันด้วย ยกเว้นแต่ Auto complete form history เพราะถ้าคุณติ๊กอันนี้ passwords ทั้งหลายที่คุณเซฟไว้จะถูกลบทิ้งไปทั้งหมด
- Windows Explorer รวมทั้ง sub entries ทั้งหมดของมันด้วย
- System รวมทั้ง sub entries ทั้งหมดของมันด้วย

ถึงตอนนี้ ถ้าคุณกลับไปดูที่หน้าต่างหลักของมัน ก็จะพบว่า มันโล่งโจ้งว่างเปล่า เว้นแต่ ปุ่ม 2 ปุ่มที่อยู่ข้างล่าง โดยปุ่มหนี่งนั้นมีชื่อว่า Analyze (ถ้าคลิกที่มัน คุณก็จะเห็นรายชื่อของไฟล์ที่จะถูกลบทิ้งทั้งหมด) คุณสามารถที่จะลบมันทิ้งได้เลย โดยไม่มีอันตรายกับเครื่อง
วิธีลบมันทิ้ง ให้คลิกที่ Run cleaner แล้วมันก็จะถามว่า คุณอยากที่จะลบไฟล์ทั้งหมดทิ้งไปแบบถาวรใช่หรือไม่ ให้คุณคลิก yes มันจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อลบเสร็จแล้ว

ต่อจากนั้น ให้คุณคลิกที่ไอคอน ISSUES (มันอยู่ที่ด้านซ้ายมือ ถัดลงมาจากไอคอน cleaner) คุณจะเห็นว่าค่า settings ของ การสแกน Issue มันถูกติ๊กไว้หมดแล้ว ให้ปล่อยไว้อย่างนั้น ไม่ต้องแก้ไขอะไร
หมายเหตุ ในเวอร์ชั่นล่าสุดของ CCleaner คำว่า ISSUES ได้ถูกเปลี่ยนมาเป็น REGISTRY

ทีนี้ให้คลิกที่ Scan for Issues (อยู่ที่ด้านล่างสุดเลย) เมื่อมันสแกนเสร็จแล้ว ถ้ามันไม่เจอปัญหา มันจะแจ้งว่า No issues were found แต่ถ้ามันพบปัญหา มันก็จะแสดงสิ่งที่มันเจอไว้ด้านล่าง
ทีนี้ก็ให้คุณคลิกที่ Fix selected issues แล้วคุณจะถูกสั่งให้ back up ให้ทำตามคำแนะนำของมัน แล้วเซฟbackup (ตอนนี้ คุณก็สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างปลอดภัย โดยคลิกที่ปุ่ม Fix Selected Issues)

ถ้าหากคุณเจอกับปัญหาที่ว่า มันไม่สามารถลบโปรแกรมบางตัวออกไปได้ด้วยวิธี Normal method ก็ให้ไปลบด้วยวิธี Start -->Control Panel-->Add/Remove Programs หรือไม่ก็ให้โอกาส CCleaner พยายามลบมันดู โดยเปิดทำงาน CCleaner ขึ้นมา แล้วคลิกที่ไอคอน Tools แล้วหน้าต่างการถอดถอนโปรแกรมก็จะเปิดขึ้นมา มันจะแสดงให้คุณเห็นโปรแกรมทั้งหมด ที่ได้ทำการติดตั้งไว้ในเครื่องของคุณตอนนี้ ให้เลื่อนหาจนกว่าจะเจอโปรแกรมที่คุณต้องการจะถอดถอน แล้วคลิกที่ Run uninstaller

ถ้าหากคุณต้องการที่จะปรับเปลี่ยนโปรแกรมใดก็ตาม ที่ถูกตั้งไว้ให้เปิดทำงานเองทันทีในทุกครั้งที่คุณ restart เครื่อง ก็ให้คลิกที่ ปุ่ม Start-up แล้วเลื่อนหาโปรแกรมที่คุณต้องการจะย้ายออกจาก start-up แล้วคลิก Delete entry

-----------------------------------------------------------------

มาพูดถึง Advance Tab กันบ้าง  ยิ้ม
ข้อย่อยแต่ละข้อของ Advance Tab
1 Old Prefetch Data
  ในระบบวินโดว์ XP, ในแต่ละครั้งที่โปรแกรมถูกใช้งาน Prefetch file (ไฟล์ที่เตรียมไว้ล่วงหน้า) มันก็จะถูกสร้างขึ้นมา ซึ่งมันจะช่วยให้วินโดว์เปิดทำงานโปรแกรมนั้นๆได้เร็วขึ้นในครั้งต่อๆไปที่เรามันขึ้นมาทำงาน แต่มันมีข้อเสียก็คือ เมื่อเราได้ทำการถอดถอนโปรแกรมใดก็ตามออกไปแล้วก็แล้ว เจ้าไฟล์เหล่านี้มันจะไม่ถูกลบทิ้งไปด้วย มันจะเหลือค้างไว้อย่างนั้นแหละ เอาไว้กินพื้นที่ความจำโดยใช่เหตุ ทีนี้ถ้าเราติ๊กเลือกตัวนี้ CCleaner มันก็จะไปลบ Prefetch file ที่ไม่ได้ถูกเรียกใช้งานเลยมาเกินกว่า 14 วันแล้ว (ขบวนการนี้ปลอดภัย เพราะว่าวินโดว์มันสามารถที่จะสร้าง Prefetch file ที่มันจำเป็นต้องใช้ขึ้นมาใหม่ได้เอง หลังจากที่ตัวเดิมถูกลบทิ้งไป)
-------------------------------------------------------------
2 Menu Order Cache
  ในเมนู Start, มันจะปล่อยให้เราจัดการตั้งค่าเรียงลำดับรายการโปรแกรมต่างๆได้ (แต่ทว่า มันไม่มีตัวเลือกให้เราจัดเรียงโปรแกรมตามชื่อเรียงลำดับตัวอักษรหรอก  อายจัง ) ทีนี้ถ้าเราติ๊กเลือกตัวนี้ ไอ้ค่าการจัดเรียงโปรแกรมที่เราตั้งขึ้นมามันก็จะถูกลบทิ้งไป แล้วในเมนู Start ก็จะถูกจัดให้เหมือนกับค่าที่ถูกตั้งมาจากโรงงาน (by default)
---------------------------------------------------------
3 Tray Notification Cache
  ในระบบวินโดว์ XP, เจ้าตัว System Tray (กลุ่มไอค่อนต่างๆที่ถูกรวมไว้ถัดจากนาฬิกาที่มุมด้านล่างทางขวามือ) มันจะถูกสั่งมาให้ซ่อน items แบบอัตโนมัติอยู่แล้ว ใช่อยู่ว่ามันสร้างความสะดวกให้เราอย่างมาก แต่มันเล่นบันทึกโปรแกรมทุกตัวที่สามารถเรียกใช้งานจาก Tray ได้นะซิ ทีนี้ถ้าเราติ๊กเลือกตัวนี้ มันก็จะไปลบรายการดปรแกรมต่างๆที่ผ่านการใช้งานมาในอดีต แล้วก็จะไปลบค่าต่างๆเกี่ยวกับ display/hide options ที่เราตั้งขึ้นมาเอง ให้กลับไปเป็น by default (คำเตือน: เมื่อเราเลือกคำสั่งนี้ เพื่อให้มันมีผลบังคับใช้ เราจะต้องไปสั่ง restart the explorer process จาก Task Manager เสียก่อน)
-------------------------------------------------------------------------------
4 Windows Size / Location Cache
  Windows Explorer มันจะเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ folder แต่ละตัว (เช่น  view formatting, ordering settings) เอาไว้ ทีนี้เมื่อเวลาผ่านไป ข้อมูลเหล่านี้มันก็ย่อมที่จะมีแต่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ (แถมเป็นข้อมูลที่ไม่มีประโยชน์อะไร) ถ้าเก็บเอาไว้มันก็อาจจะมีผลกระทบทำให้เราเลือกดูไฟล์ในระบบได้ช้าลง ทีนี้ถ้าเราติ๊กเลือกตัวนี้ มันก็จะลบข้อมูลเหล่านี้ทิ้งไป และปรับค่าของ Windows Explorer ให้เป็น by default
------------------------------------------------------------------------
5 User Assist History
  ในระบบวินโดว์ XP, ในเมนู start มันจะแสดงรายการโปรแกรมที่ผ่านการใช้เมื่อไม่นานมานี้ให้เราดู ทีนี้ถ้าเราติ๊กเลือกตัวนี้ มันก็จะลบรายการเหล่านี้ทิ้งไป
--------------------------------------------------
6 IIS Log Files
IIS (Internet Information Server) มันเป็นบริการที่วินโดว์ใช้เพื่อแสดงหน้าเว็บ เจ้าบริการตัวนี้มันติดตั้งมาพร้อมกับ XP Pro และ Windows 2000 อยู่แล้ว แล้วโดยทั่วไปมันจะถูกใช้โดยนักพัฒนาเว็บ หรือนักออกแบบเว็บเท่านั้น เว้นแต่ว่า ถ้าเครื่องคุณเป็น web server แล้ว, เจ้าบริการตัวนี้ก็ไม่มีความจำเป็นอะไร และปลอดภัยถ้าหากคุณเลือกที่จะลบมันทิ้ง
----------------------------------------------------------------
7 HotFix Uninstaller
  ตัวเลือกนี้มันจะไปลบข้อมูล Windows Updates ออกจากเครื่อง เพราะฉะนั้นคุณจะไม่สามารถถอดถอน Windows Updates ตัวใดก็ตามที่ติดตั้งแล้วในเครื่องได้หลังจากนี้
------------------------------------------------------------------
8 Custom Files And Folders
  ก็ง่ายๆครับ มันจะไปลบ Custom Files And Folders
--------------------------------------------------
หมายเหตุ: ข้อมูลไปแกะมาจากคู่มือการใช้ CCleaner
จบแล้วครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น